หน่วยที่ 2 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หน่วยที่ 2 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสาร
1. ระบบและวิธีการเชิงระบบระบบ(System) หมายถึง การทำงานขององค์ประกอบย่อยๆอย่างอิสระแต่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันจนกลายเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ วิธีการเชิงระบบ (System Approach) วิธีเชิงระบบหรือวิธีระบบคือคำๆเดียวกัน เป็นกระบวนการคิดหรือการทำงานอย่างมีแบบแผนชัดเจนในการนำเนื้อหาความรู้ด้านต่างๆองค์ประกอบของวิธีระบบ
1. ปัจจัยนำเข้า (Input) หมายถึง วัตถุสิ่งของต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์สถานการณ์ วัตถุประสงค์ ปัญหา ความต้องการ ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ อันเป็นต้นเหตุของประเด็นปัญหา
2. กระบวนการ (Process) หมายถึง วิธีการ ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน การสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาและปัจจัยนำเข้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือความต้องการ
3. ผลลัพธ์ (Output) หมายถึง ผลงานที่ได้จากกระบวนการจัดการวัตถุดิบหรือปัจจัยนำเข้า ผลงานที่ได้รับอาจจะเป็นวิธีการหรือชิ้นงานก็ได้ ซึ่งสามารถประเมินผลและตรวจสอบข้อมูลย้กลับ
2.ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ การประมวลผลข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นกระบวนการเพื่อให้ข้อมูลในรูปของข่าวสารที่เป็นประโยชน์สูงสุด ระบบสารสนเทศจึงเป็นระบบที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติการเกี่ยวกับข้อมูลดังนี้
1.รวบรวมข้อมูลทั้งภายในภายนอก ที่จำเป็นต่อหน่วยงาน
2.จัดกระทำเกี่ยวกับข้อมูล เพื่อพร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้
3.จัดให้มีระบบเก็บเป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกนำไปใช้ประโยชน์
4.มีการปรับปรุงข้อมูลเสมอ เพื่อให้อยู่ในสภาพที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ตลอดเวลา 3.องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
3.1 องค์ประกอบหลักของระบบสารสนเทศ ระบบการคิด หมายถึง กระบวนการและขั้นตอนในการจัดลำดับ จำแนกแจกแจงและจัดหมวดหมู่ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและเผยแพร่ ระบบเครื่องมือ หมายถึง วัสดุอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่นำมาใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่สารสนเทศให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.2 องค์ประกอบด้านต่าง ๆ ของระบบสารสนเทศ


3.2.3 องค์ประกอบของสารสนเทศในหน่วยงาน ได้แก่
บุคคลหรือองค์กร เทคโนโลยี ข้อมูล และระบบสารสนเทศ
เทคโนโลยีข้อมูล บุคคล
3.2.4. องค์ประกอบระบบสารสนเทศทั่วไป ประกอบด้วย 5 องค์ ประกอบดังนี้คือ เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูลข้อมูล สารสนเทศโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์

ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)
วิธีการวิเคราะห์ระบบสารสนเทศ แบ่งออกเป็น 4 หน่วยย่อยคือ
1. วิธีวิเคราะห์แนวทางการปฏิบัติงาน
2. วิเคราะห์หน้าที่
3. วิเคราะห์งาน
4. วิเคราะห์วิธีการและสื่อ
ขั้นที่ 2 การสังเคราะห์ระบบ (System Synthesis)
1. การเลือกวิธีการหรือกลวิธี
2. ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. ประเมินผลประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่ 3 การสร้างแบบจำลอง (Construct a Model) แบบจำลองเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นภาพที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็น ภาพลายเส้น หรือรูปสามมิติ แบบจำลองระบบทำให้เข้าใจโครงสร้าง องค์ประกอบ และขั้นตอนใน การดำเนินงาน สามารถตรวจสอบหรือทำนายผลที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะนำระบบไปใช้จริงระบบทำงาน แม้จะมีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน แต่อาจจะมีแบบจำลองระบบไม่เหมือนกัน
5.ประเภทของสารสนเทศ การจำแนกสารสนเทศตามจำนวนคนที่เกี่ยวข้องในองค์กรแบ่งได้ 3 ระดับ 1. ระบบสารสนเทศระดับบุคคล คือระบบที่เสริมประสิทธิภาพและเพิ่มผลงานให้แ บุคคล
2. ระบบสารสนเทศระดับกลุ่ม คือระบบสารสนเทศที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของกลุ่มบุคคล ที่มีเป้าหมายการทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโครงการของกลุ่ม
3. ระบบสารสนเทศระดับองค์กร คือระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร ในภาพรวมเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน 6.ข้อมูลและสารสนเทศ
6.1 ข้อมูล(data) ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าทั้งที่สามารถนับได้และนับไม่ได้ข้อมูลดิบ (raw data) หมายถึง วัตถุสิ่งของ เหตุการณ์ สถานการณ์ ที่มีคุณลักษณะหรือคุณสมบัติอยู่ในสภาพเดิม มีความอิสระเป็นเอกเทศในตัวมันเองยังไม่ผ่านการกลั่นกรอง ข้อมูลดิบที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติถูกต้อง ต้องปรากฏให้เห็นอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
6.2 สารสนเทศ (informational) สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรองโดยการจำแนกแจกแจง จัดหมวดหมู่ การคำนวณและประมวลผลแล้วสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้ อย่างไรก็ตามสารสนเทศที่ประกอบด้วยเนื้อหาสาระพื้นฐานทั่วไปอาจกลายเป็นข้อมูลสำหรับงานสารสนเทศขนาดใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อนก็ได้ ข้อมูลดังกล่าวจึงเรียกว่า ข้อมูลสารสนเทศ (informational data)
6.2.1 คุณสมบัติของข้อมูลสารสนเทศที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ความถูกต้อง (accurate)
2. ทันเวลา (timeliness)
3. สอดคล้องกับงาน (relevance)
4. สามารถตรวจสอบได้ (verifiable)
5. มีความสมบรูณ์ครบถ้วน(integrity)
6.2.2 ชนิดของข้อมูล
1. ข้อมูลที่เป็นตัวเลข (Numeric type)เช่น ความสูง 175.3 (ซ.ม.) เป็นต้น
2. ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระ (Character type) ใช้บรรยายความหมาย
3. ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรเลข (Alphanumeric type) ตัวอักษร ตัวเลข และ ตัวสัญลักษณ์พิเศษ
4. ข้อมูลมัลติมีเดีย (multimedia) หรือสื่อประสม เช่น ภาพ เสียง ข้อความ เป็นต้น 6.3 ความรู้ (Knowledge) ความรู้ เป็นสภาวะทางสติปัญญาของมนุษย์ในการตีความสิ่งเร้าทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกด้วยความเข้าใจสาระของเนื้อหา กระบวนการ และขั้นตอน อาจอยู่ในรูปของข้อมูลดิบหรือสารสนเทศระดับต่างๆ หรืออาจอยู่ในรูปของอารมณ์ความรู้สึก 6.4 การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
6.4.1 ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล
1.การรวบรวมข้อมูล หมายถึงการเก็บข้อมูลจากแหล่งกำเนิด มาจัดเก็บ และการบันทึก
2.การบำรุงรักษาและประมวลผลข้อมูล เป็นกระบวนการเก็บรักษาข้อมูลไว้ให้ใช้ได้ตลอดไป
3.การจัดการข้อมูล คือการสร้างระบบจัดการข้อมูลจำนวนมากให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันเวลา
4.การควบคุมข้อมูล เป็นการป้องกันรักษาข้อมูลที่จัดเก็บไว้แล้วให้ปลอดภัย
5. การสร้างสารสนเทศ เป็นการตีความหมายของข้อมูลที่ได้มาแล้วนำไปประมวลผลและแยกประเภท จากนั้นนำมาสรุปและรวบรวมเอาไว้ ซึ่งจะได้สิ่งที่เรียกว่า สารสนเทศ และจะต้องมีการจัดทำรายงาน
6.4.2 วิธีการเก็บข้อมูล (Data Collection Methods)
1. การสำรวจด้วยแบบสอบถาม ในการสำรวจข้อมูลความคิดเห็น อาจจำเป็นต้องทำแบบสอบถาม เพื่อให้ง่ายต่อการตอบและรวบรวมข้อมูล
2. การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของข้อมูล อาจใช้วิธีเก็บข้อมูลด้วยการแจกแบบสอบถามให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการทราบข้อมูล
3.การนับจำนวนหรือวัดขนาดของตนเอง หรือโดยใช้อุปกรณ์อัตโนมัติข้อมูลบางอย่างจำเป็นต้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องไปนับหรือวัดด้วยตนเอง เช่น จำนวนต้นไม้ในป่า ความสูงของต้นไม้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล
1. สถานีงาน (workstation) หมายถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานหรือจัดไว้ที่โต๊ะทำงานของผู้ใช้แต่ละคน บางทีเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
2. เครื่องบริการ (Server) เป็นเครื่องขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกันหลายคนเป็นเครื่องที่ใช้เก็บฐานข้อมูลหรือโปรแกรมสำเร็จ Windows 2000 Server
3. เครือข่ายสื่อสารข้อมูล คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ให้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนกันได้ นิยมแบ่งเครือข่ายตามขนาดพื้นที่และจำนวนเครื่องที่ใช้งานได้แก่
3.1 แลน (LAN =Local Area Network) คือ เครือข่ายเฉพาะที่จำกัดเขตเฉพาะภายในบริเวณอาคารหรือกลุ่มอาคารที่อยู่ใกล้กัน
3.2 แวน(WAN=Wide Area Network) คือ เครือข่ายบริเวณกว้าง ปกติเชื่อมโยงด้วยระบบสื่อสารสาธารณะ เช่น สายโทรศัพท์ เครือข่ายเส้นใยแก้วนำแสง หรือเครือข่ายสัญญาณดาวเทียม
3.3 อินเทอร์เน็ต(Internet) คือ เครือข่ายขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเครือข่ายแวนจำนวนมากซึ่งคลุมพื้นที่กว้างไกลทั่วโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น